ชิปปิ้ง อีกหนึ่งเป้าหมายทางธุรกิจ E-Commerce ที่นอกเหนือไปจากผู้ประกอบการต้องแข่งขันกันทำกำไรให้กับธุรกิจแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่เป็นปัจจัยในการมัดใจผู้บริโภคยุคใหม่ไว้ได้ นั่นก็คือ ‘ความรวดเร็ว’ ในการจัดส่งสินค้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากจัดส่งเร็วเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้นเท่านั้น และมีโอกาสสูงมากที่จผู้บริโภคจะกลับมาใช้บริการซ้ำอีก
ไม่ว่าสินค้าที่คุณสั่งซื้อออนไลน์นั้น จะมีมูลค่าสูงหรือไม่ ใครๆ ต่างก็อยากให้สินค้าเดินทางมาถึงมือไวๆ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลา 2-3 ให้หลังมานี้ บริษัทขนส่ง (ชิปปิ้ง) จำนวนมากจึงมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดในเรื่องการให้บริการจัดส่งที่สั้นลง และทยอยเปิดตัวบริการแบบ Same-Day Delivery หรือการส่งของให้ถึงปลายทางภายในวันเดียว เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์สังคมที่เปลี่ยนไป คนรู้จัก ‘รอ’ น้อยลง แต่ต้องการความ ‘รวดเร็วทันใจ’ มากขึ้น
สำหรับบริการส่งของแบบ Same-Day Delivery แบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังนี้
- แบบ On Demand คือ การส่งจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ยกตัวอย่าง Grab Delivery , Lalamove หรือ Kerry Express เป็นต้น
- แบบ Same-day คือ การส่งให้ถึงภายในวันเดียว แต่มีข้อแตกต่างตรงที่เวลาในการ Cut-Off ของสินค้า เช่น ผู้ส่งต้องการนำสินค้ามายังศูนย์กระจายภายในเที่ยงวัน ซึ่งแบบ Same-day มักเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็น B2C ที่เป็นธุรกิจทั่วไป หรือแม่ค้าออนไลน์ เช่น DHL Parcel Metro เป็นต้น
นอกจากการเติบโตของธุรกิจ Logistic รวมไปถึงชิปปิ้ง ที่เพิ่มขึ้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ช่วยให้ธุรกิจ Logistic และชิปปิ้ง หลายแบรนด์เล็งเห็นความสำคัญในการลงสนามการแข่งขันแบบ ส่งเร็ว ถึงไวในวันเดียว นั่นคือ
- E-Commerce เติบโตก้าวหน้า เพราะธุรกิจ Logistic เป็นองค์ประกอบสำคัญที่เดินหน้าควบคู่ไปกับธุรกิจ E-Commerce ยิ่งธุรกิจ E-Commerce มีอัตราการเติบโตรุดหน้ามากเท่าไหร่ ย่อมส่งผลให้ธุรกิจ Logistic ต้องพัฒนาการให้บริการที่สมบูรณ์แบบตามไปด้วย ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างรวดเร็วทันใจ
- เมื่อสั่งของแพงๆ ผู้บริโภคย่อมอยากได้ของไว โดยเฉพาะผู้ที่มีประสบการณ์การซื้อสินค้าออนไลน์ที่มีมูลค่าสูงๆ การลุ้นไม่ได้อยู่แค่การสั่งซื้อสินค้าอย่างเดียวเท่านั้น แต่สินค้านั้นจะถึงมือผู้ซื้อหรือผู้บริโภคได้รวเร็วมากแค่ไหน รวมไปถึงพัสดุที่จะได้รับจะมีสภาพถึงมือผู้รับเป็นอย่างไรอีกด้วย ซึ่งบริการส่งพัสดุแบบ Same-Day Delivery ได้มีบทบาทในการช่วยแก้ไขในเรื่อง Pain Point ตรงนี้
- ใครๆ ต่างสนใจบริการ Same-Day Delivery ส่งรวดเร็วในวันเดียว ผู้บริโภคต่างเริ่มใช้บริการนี้มากขึ้น แม้การส่งแบบ Same-Day Delivery จะเข้ามาในเอเชียแปซิฟิกช้ากว่าภูมิภาคอื่นๆ แต่หาใช่อุปสรรคหรือปัญหาที่ขัดขวางการเติบโตต่อความต้องการของบริการนี้
ข้อมูลของ DHL Global ได้ระบุถึงบริการ Same-Day Delivery ว่ามีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในภูมิภาคแปซิฟิก และในปี 2021 ที่จะถึงนี้ มีการคาดการณ์ว่าจะกลายเป็นภูมิภาคนี้ จะมีสัดส่วนการใช้ Same-Day Delivery มากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อหันมามองดูประเทศไทย การแข่งขันบริการส่งพัสดุแบบ Same-Day Delivery ในบ้านเรานั้น ส่วนใหญ่ยังมีข้อจำกัดอยู่เฉพาะในพื้นที่บริเวณกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น เช่น ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม อีกทั้งศูนย์กลางของ Logistic ยังอยู่เพียงในเขตเมือง ทำให้ความเป็นไปได้ในการจัดส่งวันเดียวถึงในพื้นที่เหล่านี้ มีความเป็นไปได้มากกว่าพื้นที่ต่างจังหวัด แต่ในอนาคต หลายๆ แบรนด์ ต่างก็มีแนวโน้มในการขยายธุรกิจไปยังพื้นที่หัวเมืองใหญ่ๆ ตามต่างจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นเชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น
อย่างไรก็ตามสำหรับบริการนำเข้าสินค้า (ชิปปิ้ง) สามารถเลือกใช้บริการกับมืออาชีพและมีความเชี่ยวชาญเรื่องการนำเข้าสินค้าได้กับ Thaitopcargo โดยมีเงื่อนไขการบริการที่เข้าใจได้ง่าย และสามารถดำเนินการจัดการได้บนแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน
อ้างอิงข้อมูล : https://marketeeronline.co/archives/61661