ชิปปิ้ง 10 วิธี Work from Home สร้างสมดุลให้ชีวิตการทำงาน

ชิปปิ้ง 10 วิธี Work from Home สร้างสมดุลให้ชีวิตการทำงาน - thaitopcargo ชิปปิ้ง ชิปปิ้ง  10 วิธี Work from Home สร้างสมดุลให้ชีวิตการทำงาน 10              768x402

ชิปปิ้ง เนื่องจากมาตรการควบคุมไวรัส Corona 2019 (COVID-19) ส่งผลให้พนักงานบริษัทหลายแห่งต้องหยุดงานเพื่อกักกันตัวเองจากการแพร่ระบาดของไวรัส หรือบางแห่งก็มีมาตรการให้พนักงาน สามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ใช้วิธี Work From Home เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่และติดเชื้อ

การทำงานจากที่บ้านนั้นมีประโยชน์มากมาย อย่างน้อยก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ผจญกับรถติด ทำให้มีชั่วโมงการทำงานที่เต็มที่และยาวนาน แม้ว่าการทำงานจากที่บ้านจะสะดวกสบาย แต่หากไม่ได้รับการจัดการที่ดี ก็อาจเป็นปัญหาได้เช่นกัน

หากคุณเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ต้อง Work From Home เคล็ดลับต่อไปนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดและสร้างสมดุลในการทำงาน Thaitopcargo แนะนำทริคเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัตที่ดีที่สุดในการทำงานจากที่บ้าน ไปดูกันเลย

1. สร้างพื้นที่ทำงาน จัดพื้นที่ให้น่านั่ง เมื่อเลือกพื้นที่ที่เหมาะกับการนั่งทำงานและจัดระเบียบให้เรียบร้อย เก็บข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง เลือกสิ่งของที่วางบนโต๊ะอย่างเหมาะสม แยกข้าวของที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป พร้อมทั้งหาอะไรที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ อาจะเป็นผลงานศิลปะ หรือต้นไม้มาวางประดับ เพียงเท่านี้ก็ช่วยเพิ่มความสดใสและความมีชีวิตชีวา สร้างสรรค์บรรยากาศการทำงานให้น่านั่งไม่เบาเลยทีเดียว เนื่องจากการนั่งทำงานในบริเวณที่รกและสกปรก อาจทำให้ความคิดยุ่งเหยิงและเสียสมาธิได้

2. อัพเดทสิ่งที่ต้องทำทุกๆ เช้า เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการเช็คลิสต์ลำดับความสำคัญในแต่ละวัน กำหนดเป้าหมายและเวลาที่จำกัดสำหรับแต่ละงาน เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่มีประสิทธิภาพ ทำงานโดยลิสต์สิ่งที่ต้องทำ จะช่วยให้คุณเริ่มต้นทำงานในแต่ละวันได้อย่างรวดเร็ว

3. หลีกเลี่ยงการทำงานในห้องนั่งเล่น นี่คืออีกหนึ่งสิ่งที่เป็นตัวทำลายประสิทธิผลในการทำงานของคุณ บางคนอาจคิดว่า Work From Home จะเป็นวันที่จะได้ดื่มด่ำกับ Netflix ซึ่งคุณอาจจะเผลอหลวมตัวได้ หากคุณไม่ระวัง

4. ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายช่วยเพิ่มสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งจะเพิ่มความสุข ความเพลิดเพลินและสมาธิ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการครีเอทผลงานได้อย่างสร้างสรรค์ การออกกำลังกายแบบยืดเส้นยืดสายเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรค Office Syndrome อาจเลือกช่วงเวลาหยุดพักกลางวัน แล้วออกไปเดินเล่น โยคะเบาๆ เพื่อยืดกล้ามเนื้อ เป็นต้น

5. เช็คอินกับเพื่อนร่วมงานบ่อยๆ ใช้เวลาประชุมกับทีมเป็นประจำ การประชุมควรมีวาระที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกทุกคน พวกเขาจึงมีส่วนร่วมในการแบ่งปันและอัพเดท อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าต้องพูดคุยหรือรายงานทุก 5 นาที เขียนอธิบายทุกการเคลื่อนไหว แต่ทว่าเป็นการแชร์ให้เพื่อนร่วมงานทราบ และเป็นการติดต่อสื่อสารกันอยู่เรื่อยๆ ก็เท่านั้น นอกเหนือจากนี้ การวีดีโอคอลก็เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่คนทำงานที่บ้านต้องทำบ่อยๆ และ อย่าลืมพูดคุย ทักทาย และเสนอแนะ เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าคุณรับฟังอยู่ หรือที่ง่ายสุด แค่กล่าวสวัสดีตอนเริ่มและบอกลาตอนจบก็ยังได้

6. กำหนดเวลางาน แม้ว่าการทำงานที่บ้านจะมีอิสระและข้อดีมากมาย แต่หลายครั้งก็กินเวลาชีวิตคุณไปอย่างไม่รู้ตัว เช่น ทำให้บางคนเริ่มงานเร็วกว่าปกติ บางคนทำเพลินจนลืมเวลาพัก หรือบางคนติดพันจนเลิกช้ากว่าเดิม ส่งผลให้การใช้ชีวิตเริ่มไม่สมดุล ฉะนั้นเคล็ดลับแรกของการทำงานที่บ้าน คือ การกำหนดตารางเวลาทำงานและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด (ยกเว้นกรณีงานด่วน) อาจจะตั้งเวลาแจ้งเตือนไว้ เพื่อช่วยให้ชีวิตมีแบบแผนมากยิ่งขึ้น

7. ทำให้เป็นมืออาชี เมื่อมีโอกาสทำงานที่บ้าน คุณควรทำตัวให้เป็นมืออาชีพเช่นเดียวกับการทำงานที่บริษัท เพราะว่าการทำงานที่บ้านไม่ได้หมายความว่าสามารถทำงานบ้านหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ แต่แน่นอนว่าเราไม่ควรจะติดอยู่กับงานยาวนานตลอด 8 ชั่วโมง ดังนั้นอาจจะปลีกเวลาไปซื้อกาแฟร้านข้างบ้าน เดินเล่นในสวนเพื่อพักสายตาสักครู่ โดยอาจจะแบ่งเวลาช่วงพักเบรกสัก 5 นาที แล้วกลับมาทำงานต่อ

8. หาช่วงเวลาที่เหมาะสม (ยกเว้นงานเร่งด่วน) แต่ละคนมีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เช่น บางคนมีสมาธิช่วงเวลาเช้า ขณะที่บางคนเวลาทำงานได้ดีที่สุดคือช่วงเย็น ดังนั้น เมื่อค้นพบว่า เวลาไหนที่คุณมีประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด ลองสร้างตารางการทำงานของคุณในช่วงเวลาดังกล่าว อย่าพยายามอย่าปลีกตัวไปทำกิจกรรมอย่างอื่นในช่วงเวลานั้น

9. เลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงานที่สะดวกสบาย เพื่อให้การทำงานที่บ้านมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พนักงานทุกคนควรมีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เหมาะสม ซึ่งตามหลักความเป็นจริงแล้วสามารถขอยืมข้าวของที่เคยใช้งานหรือที่มีอยู่ในบริษัทได้ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ คีย์บอร์ด เม้าส์ โน๊ตบุ๊ก โต๊ะ เก้าอี้ หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ สิ่งสำคัญคือรายละเอียดที่เกี่ยวกับข้อมูลการขนย้าย ระยะเวลาการคืน รวมถึงระวังเรื่องความเสียหายของอุปกรณ์สำนักงานด้วย

10. ใช้ประโยชน์จากการทำงานที่บ้าน ประโยชน์อย่างหนึ่งของการทำงานที่บ้าน คือ ช่วยให้มีเวลาในการใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้น เช่น อาจลองทำกิจกรรมอย่างอื่นที่คุณชอบและอยากทำ หรือกิจกรรมที่ทำไม่ได้ในเวลาทำงานปกติ เพราะว่าส่วนใหญ่เวลามักจะหมดไปกับการเดินทาง เช่น ตื่นเช้าขึ้น เพื่อทำอาหาร หรือออกกำลังกาย เป็นต้น

ข้อมูล : https://www.nextiva.com/blog/working-from-home-tips.html