ในต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย Volvo Group Australia ได้จัดตั้งโครงการ Driver Academy ขึ้นเพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ของคนขับรถบรรทุกให้กลายเป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกที่เป็นมืออาชีพ เพื่อชักจูงให้ผู้คนเข้ามาทำงานในอุตสาหกรรมขนส่ง และผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้ใบประกาศนียบัตรเพื่อนำไปใช้สมัครงานอย่างกว้างขวาง

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันก็ยังมีจำนวนของภาวะขาดแคลนอาชีพดังกล่าวในต่างประเทศอยู่ดี และต่อไปนี้คือ 10 เบื้องลึกว่าเหตุใดอาชีพนี้จึงไม่มีใครอยากเป็น

1. มีอัตราการเปลี่ยนงานสูง อัตราการหมุนเวียนของอาชีพคนขับรถบรรทุกนั้นมีสูงถึง 90% และปัญหาการขาดแคลนไม่ได้เกิดมาจากการขาดผู้สนใจสมัครเป็นคนขับรถ จริงๆ แล้วมีผู้คนที่มีศักยภาพจำนวนมากที่ต้องการจะทำอาชีพนี้ แต่เนื่องจากค่าจ้างที่ค่อนข้างต่ำ และสภาพการทำงานที่ไม่ได้ ‘ดูดี’ นัก จึงทำให้พวกเขาหันไปทำอาชีพอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและมีภาพลักษณ์ที่ดีกว่า

2. ค่าจ้างแรงงานต่ำ อาชีพขับรถบรรทุก ทำเงินได้ดี คำกล่าวนี้ไม่เป็นความจริงอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากค่าครองชีพยุคนี้เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ค่าแรงกลับไม่ได้ปรับขึ้นเท่ากับค่าครองชีพ

3. งานล้น แต่ไม่ได้รับค่าจ้าง บริษัทชิปปิ้งบางแห่ง ใช้วิธีจ่ายไมล์สะสมให้แทนค่าจ้าง คนขับรถบรรทุกยังต้องเผชิญกับสภาพการจราจรติดขัด อากาศเลวร้ายหรือมีความล่าช้าอื่นๆ ที่ต้องพบเจอเมื่ออยู่บนท้องถนน และการจ่ายเงินตามระยะทางทำให้เกิดความกังวลใจ เราจึงมักพบว่าคนขับรถบรรทุกต้องทำงานหนักและจอดรถริมถนนเพื่อพักผ่อน

4. ชั่วโมงการขับรถถูกจำกัด อุตสาหกรรมการขับรถบรรทุกในต่างประเทศออกกฎเข้มงวด โดยคนขับรถบรรทุกจะถูกบันทึกเวลาการทำงานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า ELD หรือ Record of Duty Status (RODS) ซึ่งใช้แทนสมุดจดบันทึก โดย ELD จะเป็นตัวบอกว่าคนขับอยู่บนถนนเมื่อไหร่ และเวลาใดที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ อย่างไรก็ตาม หากคนขับล่าช้าในเวลาปฏิบัติงานไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรก็ตาม เขาจะต้องสูญเสียไมล์และเงินที่ควรได้

5. ถูกเก็บค่าธรรมเนียมไม่เป็นธรรม ในสหรัฐอเมริกามีหน่วยงานที่เรียกว่า FMCSA (Federal Motor Carrier Safety Adminstration) หรือกองบริหารความปลอดภัยของผู้ให้บริการยานยนต์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา จัดตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบรถบรรทุกสำหรับการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและมีหน้าที่ตรวจสอบผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บางครั้ง รัฐมีการเก็บค่าปรับที่พวกเขาไม่สมควรจะจ่าย และค่าปรับนั้นก็มาจากเงินเดือนของคนขับรถนั่นเอง

6. ความไม่แน่นอนในอาชีพ คนขับรถบรรทุกบางคนกลัวที่จะถูกแทนที่ด้วยรถบรรทุกอิสระ แม้ว่าพวกเขาจะพร้อมทำงานเต็มที่ แต่วันหนึ่งก็อาจจะมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนโลกและทำให้อาชีพนี้ไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป

7. การดูแลพนักงานขับรถไม่ดีพอ แม้ว่าบริษัทชิปปิ้งหลายแห่ง จะมีการดูแลพนักงานขับรถเป็นอย่างดี ให้เกียรติและเคารพต่ออาชีพ แต่บางบริษัทชิปปิ้งอาจเอาเปรียบพวกเขาเช่นกัน เช่น บริษัทบางแห่งใช้ระบบสะสมไมล์ เพื่อคาดหวังให้คนขับรถทำงานหน้าที่อื่นๆ ด้วย แต่ไม่มีการจ่ายค่าจ้างพิเศษให้

8. มีความเสี่ยงสูง อาชีพขับรถบรรทุกนั้นต้องเผชิญกับความเสี่ยงและอันตรายสูง เนื่องจากพวกเขาใช้เวลายาวนานบนท้องถนน การขับรถบรรทุกยังยากในการบังคับและหลบหลีกรถเล็ก การเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้าย เขตก่อสร้าง ถนนไม่ดี ทำให้พวกเขาต้องขับรถอย่างระมัดระวัง นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงสารเคมี และสารอันตรายอื่นๆ ที่เสี่ยงต่อปัญหาด้านสุขภาพด้วย

9. ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อนฝูง เพราะอาชีพนี้ต้องอยู่บนท้องถนนในแต่ละวัน พวกเขาจึงต้องอยู่ไกลบ้าน ห่างจากครอบครัว คนรักและเพื่อนฝูง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีอะไรแทนที่ได้

10. มีประสบการณ์ในการถูกโกง คนขับรถบรรทุกได้รับประสบการณ์ของการถูกหลอกลวงจากบริษัทขนส่ง เช่น ถูกโกงจำนวนไมล์ รวมทั้งข้อเสนอเกี่ยวกับแรงจูงใจที่ไม่มีอยู่จริง และการให้โบนัสเพื่อชดเชยอัตราไมล์สะสมที่ต่ำ ในสหรัฐอเมริกา ค่าจ้างของอาชีพคนขับรถบรรทุกอยู่ที่ 61,431 ดอลล่าร์สหรัฐ/ปี หรือประมาณเกือบ 2 ล้านบาท (ข้อมูลจาก : https://www.indeed.com/career/truck-driver/salaries)

 อย่างไรก็ตาม บางบริษัทขนส่งจึงจำเป็นต้องปรับปรุงอัตราค่าจ้างและข้อเสนอสำหรับอาชีพคนขับรถบรรทุก ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจชิปปิ้ง โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังประสบภาวะขาดแคลนหนัก อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ 9 สายงานมาแรงและเป็นที่ต้องการของตลาด