การเลือกเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการหรือการทำอาชีพอิสระนั้น มีความเสี่ยงมากกว่าทำงานประจำหลายเท่าตัว และต้องมีวิธีการที่มุ่งสู่ความสำเร็จ ไม่ใช่การบนบานศาลกล่าว ซึ่งต้องใช้เวลาค้นหาจุดแข็งของตนเอง มุ่งมั่นที่จะสร้างมันและเริ่มเข้าสู่ธุรกิจที่ช่วยยกระดับทักษะของตนเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับผลตอบแทนจากการเป็นนายตัวเองและสร้างรายได้ที่มากกว่างานประจำ สิ่งนั้นจะทำให้คุณรู้ซึ้งว่าการทำงานหนักเป็นเรื่องที่คุ้มค่า

      คำถามที่มักถูกถามมากที่สุดคือ “จะรู้ได้อย่างไรว่าควรจะเริ่มทำธุรกิจแบบไหน?” ต่อด้วยคำถามที่ว่า “จะเริ่มธุรกิจขณะที่ยังทำงานประจำอยู่ได้อย่างไร” ต่าง ๆ เหล่านี้เป็นคำถามที่อยู่ในใจของใครหลายคน ด้วยภาระทางการเงินที่ต้องรับผิดชอบและการแข่งขันที่สูงในปัจจุบัน ซึ่งเห็นได้จากจำนวนธุรกิจ ห้างร้านต่าง ๆ ในปัจจุบัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาไอเดียดี ๆ ในการเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ให้แตกต่างและมีจุดขายที่โดดเด่นได้ ทำให้ใครหลายคนไม่สามารถลาออกจากงานประจำเพื่อมาสร้างธุรกิจใหม่ที่ยังมีความเสี่ยงอยู่ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงจำเป็นต้องพัฒนาทักษะของตัวเอง  เช่น หากคุณสนใจการนำเข้าสินค้าจากจีน จำเป็นต้องศึกษาความรู้ด้านโลจิสติกส์และภาษี เป็นต้น โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีให้เก่งกาจจึงจะสามารถเปลี่ยนจากผู้เริ่มต้นใช้งานให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ววัน ถึงเวลานั้น คุณจะมั่นใจและพร้อมก้าวเดินออกมาจากการเป็นมนุษย์เงินเดือน

     ต่อไปนี้คือ 10 ทักษะด้านเทคโนโลยี ที่สามารถพัฒนาไปเป็นอาชีพอิสระที่สามารถทำได้จริง แม้ว่ายังคงทำงานประจำและมีรายได้หลักอยู่ สามารถเสริมสร้างทักษะทางเทคโนโลยีและเปลี่ยนจากผู้เริ่มต้นให้เป็นผู้เชี่ยวชาญได้ ชอบแบบไหน เรียนรู้สิ่งนั้นให้ลึกซึ้งแล้วไปต่อให้สุด

      1. นักออกแบบเว็บไซต์ (Web Design)

นักออกแบบเว็บไซต์เป็นอาชีพที่ต้องการมากในหลาย ๆ บริษัท โดยเฉพาะบริษัทด้านเทคโนโลยี การออกแบบเว็บไซต์เป็นศิลปะในการสร้างสรรค์สิ่งสวยงาม ปัจจุบัน เกือบทุกบริษัทมีเว็บไซต์ของตัวเอง เนื่องจากเป็นสื่อหลักในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของบริษัท เว็บไซต์ที่ดี นอกจากจะมีดีไซน์สวย ทันสมัยและเข้าใจง่ายแล้ว ยังควรมีข้อมูลขององค์กรที่ครบถ้วนและอัพเดทอยู่ตลอดเวลา

      2. เปิดคอร์สออนไลน์ (Online Courses)

หากคุณเป็นคนมีความรู้ในด้านใดด้านหนึ่งเป็นอย่างดี เช่น เทคนิคการขาย สอนใช้โปรแกรมในการทำกราฟิก สอนการทำ WordPress ฯลฯ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คุณจะสามารถเปิดคอร์สสอนออนไลน์ให้กับผู้สนใจได้ โดยเฉพาะหากมีคอนเนคชันในการทำงานประจำอยู่แล้ว คุณก็สามารถที่จะรักษาลูกค้าเหล่านั้นไว้ได้ในยามที่คุณลาออกจากงาน เช่น เสนอคอร์สออนไลน์ เพื่อสอนในสิ่งที่พวกเขาอยากเรียนรู้ แม้ว่าในเริ่มแรกจะมีลูกค้าไม่กี่คนก็ตาม

      3. นักพัฒนา WordPress อิสระ (Freelance WordPress Developer)

ธุรกิจขนาดเล็กนับไม่ถ้วนเริ่มปรากฏตัวขึ้นมาจากเว็บโฮสต์ที่ชื่อว่า WordPress ก่อนที่จะเริ่มอัพเกรดไปเป็นแนวทางอื่นด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา WordPress คือโปรแกรมหลังบ้านของเว็บไซต์ ที่คนทำเว็บไซต์ต้องรู้ และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกองค์กร ที่ต้องจ้างกูรูผู้เชี่ยวชาญมาทำ เพื่อช่วยให้ SEO ติดอันดับของการค้นหาคำหรือ Search Engines 

      4. Online Coaching

เช่นเดียวกับการสอนออนไลน์และการขาย e-book ถ้าคุณมีความสามารถพิเศษอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ในตัวและมีความหลงใหลกับมัน ก็สามารถใช้ทักษะที่มี เพื่อสอนหรือโค้ชชิ่งคนอื่นแบบตัวต่อตัวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคปัจจุบัน ที่เราสามารถสร้างช่องทางโปรโมตตัวเองได้ง่ายผ่านทาง Social Media นอกจากนี้หากสามารถทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการคุณซ้ำโดยการสร้างความประทับใจและความน่าเชื่อถือก็จะทำให้คุณมีรายได้อย่างต่อเนื่อง ศึกษาเพิ่มเติมที่ 7 กลยุทธ์มัดใจลูกค้า

       5. นักพัฒนาเว็บไซต์ (Web Development)

นักพัฒนาเว็บไซต์ในยุคนี้ เป็นทักษะที่มีมูลค่าเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูง หากคุณมีความรู้เกี่ยวกับ HTML, CSS และ JavaScript อยู่บ้าง ก็สามารถเริ่มทำโปรเจกต์อิสระเพื่อสร้าง portfolio ได้ในขณะที่ยังทำงานประจำอยู่ และอย่าลืมหาเวลาไปเรียนรู้เพิ่มเติมจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญล่ะ !

       6. Podcasting

หากคุณสามารถสร้างฐานผู้ชมสำหรับ Podcast ของตนเอง ที่สอนวิธีพัฒนาทักษะพิเศษให้แก่คนอื่นได้ ก็จะเป็นอีกวิธีที่ดีมากที่จะได้รับค่าสปอนเซอร์ บางบริษัทในสหรัฐอเมริกาจ่ายถึง $ 50- 250 (หรืออาจมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของผู้ชม) ต่อตอนสำหรับโฆษณา 30 วินาทีใน Podcast ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท โดยปัจจุบัน Podcast ที่มีคนดาวน์โหลดบน iTunes เยอะที่สุดในโลก ก็คือรายการ The Tim Ferriss Show ซึ่งได้รับการจัดอันดับว่าเป็น Best of iTunes ติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน และเป็นรายการที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ในหมวดธุรกิจอีกด้วย

       7. ตัวแทนขายรายย่อยให้กับสินค้าทางเว็บไซต์ (Affiliate Sales and Marketing)

ถ้าคุณมีเว็บไซต์/บล็อกที่มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนอยู่แล้ว คุณสามารถสร้างรายได้จากเนื้อหาบนบล็อกที่สร้างไว้โดยการเป็น  Affiliate Marketing ซึ่งหลักการของมันคือ การโปรโมต ประชาสัมพันธ์ให้ทั้ง Global และ Worldwide พบเห็นสินค้าหรือบริการของผู้ให้บริการ/ผู้ขาย เมื่อมีคนสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายหรือสินค้ารูปแบบใดก็แล้วแต่ เมื่อมีการสั่งซื้อหรือการชำระเงินแล้ว ทาง Affiliate หรือตัวแทนรายย่อยก็จะได้รับเงินส่วนแบ่งหรือค่าคอมมิชชั่นเป็นการตอบแทนจากเจ้าของสินค้า ปัจจุบันมีเครื่องมือ Affiliate Marketing ที่ช่วยสร้างรายได้จากเนื้อหา อาทิ Click bank, Skim links และ Rakuten เป็นต้น

     8. เทคโนโลยีบล็อก (Tech Blogging)

หากคุณคิดว่าการเขียนบล็อกไม่ใช่แหล่งที่มาของรายได้อีกต่อไป ลองทบทวนใหม่ดูอีกสักครั้ง นักเขียนบล็อกหลาย 1,000 คนกำลังสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับแอปพลิเคชันด้านทักษะทางเทคโนโลยี และอาชีพอิสระก็กำลังก่อตัวขึ้นจากการรวมตัวกันของสมาชิกบล็อก การตลาดแบบพันธมิตร การสนับสนุนของสปอนเซอร์และกระแสรายได้อื่น ๆ

      9. นักพัฒนาแอปพลิเคชัน (Develop an App)

บางครั้งดูเหมือนว่ามีแอปพลิเคชันสำหรับทุกสิ่งบนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชันเกี่ยวกับการศึกษา ซื้อขายสินค้าออนไลน์ การเดินทางและการขนส่ง รวมทั้งเกมส์ออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม สิ่งใหม่ ๆ ยังเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และแอปพลิเคชันก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกธุรกิจเลยก็ว่าได้ หากคุณยังขาดศักยภาพด้านนี้อยู่ ลองหาเวลาไปศึกษาทักษะการเขียนโค้ดดูสิ 

       10. นักเขียนคำโฆษณาบนเว็บไซต์ (Website Copy Writing)

หากทักษะด้านเทคโนโลยีช่วยให้คุณพร้อมที่จะทำงานให้กับลูกค้าได้แล้ว พ่วงด้วยความสามารถในการเขียนข้อความที่น่าสนใจ ยิ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวคุณเองและคุณยังสามารถคิดค่าบริการเสริมในการเขียนคำโฆษณาเพิ่มได้ด้วย นอกจากนี้หากคุณมีความรู้ด้านคำศัพท์และรู้วิธีทำสร้าง keyword ให้สัมพันธ์กับเนื้อหา และทำ search-engine ได้ ก็จะยิ่งทำให้คุณได้ค่าบริการเพิ่มมากขึ้นอีก หรือหากคุณสนใจการนำเข้าสินค้าจากจีน เพื่อนำมาขายออนไลน์ก็ควรศึกษากลุ่มเป้าหมายประกอบกับการทำโฆษณาบนเว็บไซต์เหล่านั้นให้ตรงจุด ก็สามารถทำให้ธุรกิจของคุณมียอดขายเพิ่มขึ้น อ่านเพิ่มเติมที่ 5 กุญแจเพิ่มกำไรให้ธุรกิจออนไลน์

     นอกจากที่กล่าวมานี้ยังมีช่องทางทำธุรกิจอิสระอีกมากมายโดยที่ไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานประจำ เช่น การทำช่องใน Youtube ที่สามารถสร้างรายได้ได้นับล้านบาทต่อปีและเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ไอดอล นักแสดงและยังมีผู้ที่แจ้งเกิดจากการทำะุรกิจนี้อีกมากมาย หรือการรับงานอิสระเสริมร่วมกับผู้ที่ทำอาชีพอิสระเสริมคนอื่นๆ ทำให้คุณมีผลงานที่หลากหลายและมีลูกค้าเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม เป็นต้น

     ผู้ที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจอาจกำลังลังเลอยู่ว่าจะทำธุรกิจอะไรดี ซึ่งมันเป็นเรื่องยากหากคุณยังกล้าๆ กลัวๆ ในความเป็นจริงแล้วการเรียนรู้ที่ดีที่สุดก็คือการลงมือทำ ดังนั้นก่อนเริ่มทำธุรกิจควรศึกษาวิธีสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่และบริการ ดูผลตอบรับที่ได้ รวมทั้งแนวคิดของธุรกิจและเริ่มสร้างรายได้ของตนเองให้ดี ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกจากงานประจำ