ชิปปิ้ง ปัจจุบันการทำงานทางไกล หรือ Remote Workers เริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทุกปี ในประเทศเสรีอย่างสหรัฐอเมริกา หลายๆ บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Aetna, Dell, Virgin, SAP, Amazon, Toyota บริษัทเหล่านี้อนุญาตให้พนักงานสามารถทำงานทางไกล หรือทำงานจากที่ไหนก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ
คำถามคือการทำงานทางไกลจะได้ผลลัพธ์มากกว่าการทำงานในบริษัทได้อย่างไร? มีเหตุผลหลายประการที่เชื่อว่า โอกาสในการทำงานระยะไกลนั้น จะเติบโตต่อไปในอนาคต จากแนวโน้มความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและตลาดแรงงานที่ตึงตัว รวมถึงความต้องการของพนักงานที่อยากมีทางเลือกในการทำงานจากระยะไกล ซึ่งมีความยืดหยุ่น ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และผลักดันต่อการเติบนี้ได้เช่นเดียวกัน
จากการรายงานของ FlexJobs และ GWA : Global Workplace Analytics (เว็บไซต์วิเคราะห์สถานที่ทำงานทั่วโลก) ซึ่งได้วิเคราะห์ข้อมูลจาก American Community Survey ซึ่งนำเสนอข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการทำงานระยะไกลบางส่วน อาทิ
■ การทำงานระยะไกลเติบโตสูงขึ้น 44% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
■ การทำงานทางไกลเติบโตสูงขึ้น 91% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
■ จำนวน 3.4% ของพนักงานในสหรัฐฯ เป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคม ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 2.9% ในปี 2558
■ ในปัจจุบัน มีผู้ให้บริการโทรคมนาคมในสหรัฐฯ ที่ทำงานทางไกลเป็นจำนวน 4.7 ล้านคนที่ทำงานทางไกล สูงขึ้นจากเมื่อปี 2558 ที่มีเพียง 3.9 ล้านราย
■จำนวนคนทำงานทางไกลเพิ่มขึ้น 159% นับตั้งแต่ปี 2548
การสื่อสารโทรคมนาคมกำลังได้รับความนิยม และความพร้อมใช้งานของตัวเลือกที่ยืดหยุ่นก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตามบางอุตสาหกรรมก็มีตัวเลือกและโอกาสการทำทางไกลมากกว่าอุตสาหกรรมอื่น ทั้งนี้ Thaitopcargo ผู้ให้บริการนำเข้าสินค้าจากจีน (ชิปปิ้ง)ได้รวบรวมอุตสาหกรรมที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสาขาอาชีพที่เหมาะในการทำงานทางไกลมากที่สุด 5 อันดับ ดังต่อไปนี้
1. งานคอมพิวเตอร์/ไอที
หมวดหมู่งานด้านคอมพิวเตอร์และไอทีเป็นสาขาอาชีพที่ได้รับความนิยสูงสุดในปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจว่าเพราะเหตุใดอาชีพในสาขาคอมพิวเตอร์และไอที จึงเป็นผู้นำในด้านการทำงานทางไกล เนื่องจากว่างานในสาขาคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สามารถทำได้จากทุกที่ ดังนั้น บริษัท หรือองค์กรจึงประหยัดเวลาและประหยัดเงิน ด้วยการทำงานทางไกลที่มีความยืดหยุ่น ซึ่งตำแหน่งงานที่พบบ่อยจากหมวดอุตสาหกรรมนี้ ได้แก่ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ นักวิจัยวิทยาศาสตร์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และที่ปรึกษาด้านการรักษาความปลอดภัยด้านไอที
2. การแพทย์และสุขภาพ
อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพมาเป็นอันดับ 2 ในสาขาอาชีพที่มีการทำงานทางไกลมากที่สุดในปีที่แล้วเช่นเดียวกัน เนื่องจากว่าอาชีพทางการแพทย์นั้นต้องทำงานในโรงพยาบาลหรือสถานประกอบการ อาทิ ศัลยแพทย์ และด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศที่พัฒนาขึ้นตามยุคสมัย และอาชีพในอุตสาหกรรมด้านการแพย์/สุขภาพก็ไม่จำเป็นต้องทำงานบางอย่างด้วยตนเองอีกต่อไป เช่น นักวิทยาศาสตร์การวิจัยทางการแพทย์
3. งานด้านขาย งานการตลาด
ปัจจุบัน จำนวนงานขายจากทางไกลเพิ่มมากขึ้นและเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมอันดับ 3 ด้วยหน้าที่ความรับผิดชอบของอาชีพนี้ ที่สามารถทำงานได้จากอีเมลหรือทางโทรศัพท์สะดวกสบาย รวมทั้งตำแหน่งงานที่ได้รับความนิยมจากอุตสาหกรรมนี้ เช่น ผู้บริหารฝ่ายบัญชี ตำแหน่งการตลาดเชิงกลยุทธ์ ตำแหน่งการตลาดดิจิทัล และตำแหน่งบริหารงานลูกค้า ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็สามารถทำงานได้
4. การศึกษาและการฝึกอบรม
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นักเรียนยุคมหท้จึงสามารถเข้าถึงหลักสูตรที่หลากหลาย ส่งผลให้อาชีพสอนทางออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นตามไปด้วย เข่น เทรนเนอร์สอนคอร์สออนไลน์ ผู้พัฒนาหลักสูตร และ
Para-professional คือ ผู้ที่ไม่ได้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ แต่สามารถให้บริการแทนผู้ที่เป็นมืออาชีพ
จากความช่วยเหลือของเทคโนโลยี ที่ทำหน้าที่จัดการองค์ความรู้ วิเคราะห์และออกแบบขั้นตอนการให้บริการวิชาชีพในรูปแบบดิจิทัล
5. งานบริการลูกค้า
จำนวนหมวดหมู่งานที่เพิ่มขึ้น และลักษณะของงานบริการลูกค้าที่ค่อนข้างเปิดกว้าง ทำให้ตลาดแรงงานด้านอุตสาหกรรมนี้เปิดกว้างด้วยเช่นกัน และตำแหน่งงานทั่วไปในอุตสาหกรรมนี้ ที่สามารถทำงานทางไกลได้ เช่น ตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้า ตัวแทนการสนับสนุนลูกค้า รวมไปถึงงานบริการลูกค้าที่ให้บริการทางออนไลน์ทุกรูปแบบ เป็นต้น
ที่มาข้อมูล : https://www.payscale.com/career-news/2019/09/these-telecommuting-stats-may-surprise-you